ตัวอย่างการใช้โหมดวัดความต่อเนื่องวัดสายไฟ วัดฟิวส์ เช็คสวิตช์ และเช็ครีเลย์
สำคัญมากการใช้ย่านวัดความต่อเนื่องนี้ต้องวัดขณะที่ไม่มีไฟอยู่ในวงจร หรือให้ปิดสวิต์ ถอดปลั๊กก่อนทำการวัดทุกครั้งเนื่องจากในการวัดนี้ต้องใช้ไฟจากตัวมิเตอร์ถ้าไม่ทำตามมิเตอร์จะพังเสียหายทันทีและมีอันตราย (ถ้าไม่ปิดสวิตช์หรือเอาไฟออกจากวงจรก่อน)
1. ให้ปิดสวิตช์ถอดปลัก เอาไฟออกจากวงจรก่อนทำการวัด หรือให้ถอดอุปกรณ์ออกก่อนแล้วค่อยวัด
2. ปรับสวิตช์ไปที่โหมดวัดความต่อเนื่อง
3. ต่อสายวัด ต่อสายข้างไหนก็ได้เพราะไม่มีขั้ว ถ้ามีเสียงสัญญาณดังแสดงว่าเส้นตัวนำต่อถึงกัน(สายไฟไม่ขาด )
ฟ้าฟิวส์ขึ้นจะขึ้น OL และไม่มีเสียงสัญญาณดัง
อาการฟิวส์ขาดคือไม่มีกระแสไฟฟ้าไหล อุปกรณ์หรือวงจรไม่ทำงาน สาเหตุมีหลายอย่าง เช่นมีกระแสไหลเกินเพราะมีอุปกรณ์บางตัวดึงกระแสมากกว่าปกติ อุปกรณ์บางตัวในลำดับถัดไปซ๊อตจึงมีกระแสไหลเกินจำนวนมากถึงระดับที่ฟิวส์ขาด ต้องเช็คและทำการแก้ไขก่อนใส่ฟิวส์ตัวใหม่เข้าไป ฟิวส์ขาดดูยังไง ? ถ้าเป็นฟิวส์หลอดแก้วสังเกตง่ายๆ เส้นฟิวส์ที่อยู่ข้างในจะขาดออกจากกัน พร้อมกับตรงหลอดแก้วจะมีคราบร่องรอยการไหม้ และถ้าเป็นฟิวส์เซรามิคขาดดูยังไง ? ไม่สามารถดูได้ด้วยตัวเปล่าเพราะมันทีบแสงต้องใช้มัลติเตอร์วัดโอห์ม Rx1 วัด ถ้าฟิวส์ดีเข็มต้องขึ้น ถ้าฟิวส์ขาดเข็มจะไม่ขึ้น หรือใช้โหมดวัดความต่อเนื่องวัดก็ได้ ถ้าฟิวส์ดีจะต้องมีเสียงสัญญานดังถ้าไม่ดังคือฟิวส์ขาดแล้ว
สำหรับการวัดสวิตช์ให้สังเกตขาสวิตช์ก่อนทำการวัด ตามหลักกรณีสวิตช์ปกติ
- ขา COM กับขา NC ปกติตัวนำด้านในจะต่อถึงกันอยู่ถ้าใช้โหมดวัดความต่อเนื่องวัดเช็คจะต้องมีสัญญาณเสียงดัง
- ขา COM กับขา NO ปกติตัวนำด้านในจะไม่ต่อถึงกัน ถ้าใช้โหมดวัดความต่อเนื่องวัดจะต้องไม่มีสัญญาณเสียงดัง ถ้ามีสัญญาณเสียงดังหมายถึงหน้าสัมผัสติดกัน สวิตช์เสียแล้ว
สำหรับการเช็ครีเลย์ไม่ว่าจะเป็นรีเลย์ 4 ขา 5 ขา 6 ขา 8 ขา จะมีหลักการวัดเหมือนกันคือ
1. วัด Coil ของรีเลย์ ใช้ย่านวัดโอห์ม ถ้า Coil ดี (ไม่ขาด)จะมีค่าความต้านทาน
2. วัดหน้าสัมผัสของรีเลย์ ให้วัดหน้าสัมหมดทุกชุดแบ่งย่อยออกเป็น 2 กรณีคือ
2.1 หนัาสัมผัสขา COM กับขา NC ปกติจะต่อถึงกันอยู่ ถ้าวัดจะมีสัญญาณเสียงดัง ถ้าไม่ดังคือเสีย
2.2 หนัาสัมผัสขา COM กับขา NO ปกติจะไม่ต่อถึงกัน วัดต้องไม่มีสัญญาณเสียงดัง ถ้าวัดแล้วมีสัญญาณเสียงดังคือหน้าสัมเสียแบบหน้าสัมผัสติดกัน
ขั้นตอนการวัดหรือเช็ครีเลย์
1. ให้ถอดรีเลย์ออกมา ให้วัดขณะที่ไม่มีไฟ หรือปิดสวิตช์ถอดปลั๊กก่อนวัดทุกครั้ง
2. ให้ดูไดอะแกรมหน้าสัมผัส Contact ของรีเลย์ ที่ตัวรีเลย์
3. ใช้ย่านวัดโอห์มวัด Coil ต้องมีค่าความต้านทาน จึงจะเป็นรีเลย์ดี
4. ใช้ย่านวัดความต่อเนื่องวัดหน้าสัมผัสของ Relay
ตามหลักการข้างต้น ขา COM กับขา NC ปกติต่อถึงกัน วัดแล้วต้องมีเสียงดังจึงจะเป็นหน้าสัมผัสที่ดี
ตามรูปหน้าสัมผัสมี 4 ชุดให้วัดทุกชุดและทุกชุดต้องมีสภาพดีหมด
ขา 1 กับขา 9 ต่อถึงกันอยู่ ขา 2 กับขา 10 ต่อถึงกันอยู่
ขา 3 กับขา 11 ต่อถึงกันอยู่ ขา 4 กับขา 12 ต่อถึงกันอยู่
เมื่อวัดขาด้านบนของ 4 ชุดนี้ต้องมีสัญญาณเสียงดังจึงจะเป็นหนัาสัมผัสที่ดี
ขา COM กับขา NO ปกติไม่ต่อถึงกัน วัดแล้วต้องไม่มีเสียงดังจึงจะเป็นหน้าสัมผัสที่ดี
ขา 5 กับขา 9 ไม่ต่อถึงกัน ขา 6 กับขา 10 ไม่ต่อถึงกัน
ขา 7 กับขา 11 ไม่ต่อถึงกัน ขา 8 กับขา 12 ไม่ต่อถึงกัน
เมื่อวัดขาด้านบนของ 4 ชุดนี้ต้องไม่มีสัญญาณเสียงดังจึงจะเป็นหนัาสัมผัสที่ดี
Note: ขา 9 , ขา 10 , ขา 11 และขา 12 คือขา COM (Common)
ไดอะแกรมหน้าสัมผัสของ Relay ที่วัดเป็นตัวอย่าง มีหน้าสัมผัส 4 ชุด ต้องวัดทุกชุด โดยมีขา 13 และ 14 เป็นขา Coil
วัด coil ของรีเลย์ต้องมีค่าความต้านทาน ถ้าไม่มีความต้านทานคือ Coil ขาด / รีเลย์เสีย Relay ตามตัวอย่างนี้ ขา 13 และ 14 เป็นขา Coil
อ่านต่อ >>>>
วัดไดโอด ด้วยมิเตอร์แบบเข็ม
วัดไดโอด ด้วยมิเตอร์ดิจิตอล
วัดไดโอด SMD
วัดไดโอดบริดจ์
วัด LED หรือไดโอดเปล่งแสง
วัดทรานซิสเตอร์ ด้วยมัลติมิเตอร์ดิจิตอล
วัดทรานซิสเตอร์ ด้วยมัลติมิเตอร์แบบเข็ม
วัดทรานซิสเตอร์จานบิน และทรานซิสเตอร์ SMD
วัดทรานซิสเตอร์รั่ว
วัด SCR และหาขาเอสซีอาร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น